เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร วัดพรมธรรมนิมิต จ.ราชบุรี




เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร วัดพรมธรรมนิมิต จ.ราชบุรี


"วัดพรมธรรมนิมิต" (บางซื่อ) ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นสำนักอบรมปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานตามหลักสติปัฏฐานสี่ เพื่อรองรับญาติโยมที่มุ่งปฏิบัติธรรม

พระครูปลัดบุญธรรม อภิปุญโญ เจ้าอาวาสวัดพรมธรรมนิมิต (บางซื่อ) ได้จัดสร้าง เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้สมทบทุนไปสร้างเหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักรที่ สูง 9 เมตร 89 มิลลิเมตร ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท อีกทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 7 รอบ ในปี 2554 และเป็นการสมทบทุนสร้างอุโบสถวัดพรมธรรมนิมิต (บางซื่อ) ให้สมบูรณ์

 เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2552 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก โดยมี สมเด็จพระมหามังคลาจารย์ เป็นประธานจุดเทียนชัย และหลวงพ่อคิ้ม วัดหนองเสือกรับใหญ่ ดับเทียนชัย


เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร วัดพรมธรรมนิมิต จ.ราชบุรี

นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังที่เข้าร่วมพิธี อาทิ หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง, หลวงพ่อนิยม วัดเจริญสุขารามวรวิหาร, หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม, หลวงพ่อภิรมย์ วัดยานนาวา, หลวงพ่อเชิดชาย วัดดอกไม้แดง, หลวงพ่ออวยพร สำนักสงฆ์ห้วยท่าช้าง, หลวงพ่อไก่ วัดโกรกสิงขร, หลวงพ่อสุชิน วัดเขาส้ม, พระอาจารย์วรัญญู อนุภทโท วัดพรมธรรมนิมิต (บางซื่อ) และพระครูปลัดบุญธรรม อภิปุญโญ เจ้าอาวาสวัดพรมธรรมนิมิต (บางซื่อ)

เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร มีลักษณะ เป็นเหรียญวงกลมทำจากโลหะชุบทอง เงิน และทองแดง ขนาด 2.5 เซนติเมตร จัดสร้างทั้งหมดจำนวน 1,500 เหรียญ

ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปพระพุทธองค์ขนาดเล็กนั่งตรงกลางลวดลายธรรมจักร วงที่ 1 หมายถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภัทรกุลป์นี้ 5 พระองค์ คือ กกุสันโธ โกนาคมโณ กัสสโป โคตโมสักกะยะปุตโต และศรีอริยเมตไตรย วงที่ 2 หมายถึง พระธรรมที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสเทศนาให้พระพุทธสาวกด้วยธรรมมะที่ว่า สิ่งใดเกิดแต่เหตุ สิ่งนั้นย่อมดับไปด้วยเหตุ วงที่ 3 หมายถึงนามพระพุทธสาวก คือ พระโสณมหาเถระ และพระอุตตรมหาเถระ ที่นำพระพุทธศาสนาเผยแผ่ ณ ดินแดนสุวรรณ ภูมิ

ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปวงล้อธรรมจักร หมายถึง พระพุทธเจ้าองค์นั้นทรงหมุนวงล้อธรรมให้เคลื่อนที่ไป คือ พระองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ธรรมจักร มีอริยสัจสี่ อริยมรรคมีองค์แปด ตรงกลางเหรียญเขียนอักขระขอมว่า 48

กล่าวกันว่าผู้ใดมีเหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักรนี้ไว้ครอบครอง จะมีแต่ประสบผลสำเร็จดังใจหวังทุกประการ หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง เป็นเหรียญที่คาดว่าจะได้รับความนิยม จากบรรดาเซียนพระและนักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง แต่ราคาเช่าบูชายังไม่สูงนัก อยู่ที่ราคาหลักร้อยถึงหลักพันเท่านั้น แต่พบเห็นได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากจัด สร้างจำนวนน้อยมาก และผู้มีไว้ในครอบครองเก็บไว้อย่างดี

READMORE
 

อรหันต์ธรรมจักร..บนขุนเขา เหรียญยักษ์แห่งวัดพรหมนิมิต



ท้าวสหัมบดีพรหมบนเขาพรหม.

สงกรานต์...มีการจัดงาน สืบสานวัฒนธรรมกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าตามสถานที่ทำงาน ชุมชนต่างๆ สาธารณสถาน ศาสนสถาน ฯลฯ...ส่วนจะใหญ่เล็ก เต็มสูตร หรือแบบมินิ นั่นก็แล้วแต่...!!

การร่วมกิจประเพณีในช่วงเทศกาลนั้น ก็ขึ้นอยู่กับจิตประสงค์จะไกลใกล้มิใช่อุปสรรค บางพิกัดจัดติดรั้วบ้านยังไม่กรายใกล้ แต่บางราย ต้องเดินทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเมตร ก็ยังมุ่งมั่นไปร่วมด้วยศรัทธา

O O O


อย่างที่...วัดพรหมนิมิต (บางซื่อ) เลขที่ 64/2 หมู่ 16 ตำบลด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง ราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่ เนินเขาลูกหนึ่งบริวารเทือกตะนาวศรี อันเป็นเส้นกั้นเขตแดนไทยกับเมียนมาร์ ห่างจาก กทม.ไปทางภาคตะวันตกราวๆ 150 กิโลเมตร หมาดๆกับเทศกาล ผู้คนจากกรุงเทพฯเดินทางไปร่วมกิจประเพณี (สรงน้ำพระฯ) กันอย่างคับคั่ง

เอกลักษณ์...ให้เห็น ศาสนสถานแห่งนี้อย่างโดดเด่นในระยะไกล 3 กิโลเมตรกว่า คือ องค์ท้าวสหัมบดีพรหม (ท้าวมหาพรหม หน้าตักกว้าง 8 เมตร สูง 18 เมตร) ขาวสูงทะลุฟ้าโดยมีขุนเขาเป็นหลังฉากปริมณฑล เดียวกัน อีกมุมเป็น เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร เส้นศูนย์กลางสูง 9 เมตร 84 มิลลิเมตร ขึ้นมาควบคู่ โดยตรงกลางกำลังก่อสร้าง องค์พระพิฆเนศวร์...ยังไม่แล้วเสร็จ

O O O

วัดพรหมนิมิต...ได้รับการแต่งตั้งเป็นวัดอย่างถูกต้องเพียง 2 ปี แต่ได้รับแรงศรัทธาและเลื่อมใสจากพุทธศาสนิกชนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะชนเชื้อสายจีน จะมาร่วมพิธีกรรม ณ สถานที่แห่งนี้ ทุกเทศกาล


โดย...เริ่มก้าวย่างจากสำนักปฏิบัติธรรม แล้วจึงพัฒนาเป็นวัด (ยังมิได้วิสุงคามสีมา ต้องรอให้สร้างพระอุโบสถแล้วเสร็จ) อายุตั้งแต่ฝังรกเพิ่งผ่านทศวรรษได้ไม่กี่เดือน (จะครบ 11 ปีเดือนมิถุนายนที่จะถึง) ซึ่งในการบุกเบิก พระครูปลัดบุญธรรม อภิปุญโญ เป็นหัวหน้าทีมสงฆ์...

พระครูปลัดบุญธรรม อายุ 51 ปี 30 พรรษา เป็นชาวดำเนินสะดวก ราชบุรี เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ วัดหลักหกรัตนาราม ซึ่งอยู่ในอำเภอเดียวกัน ต่อมาจึงได้ย้ายไปจำพรรษาที่ วัดไทรงามธรรมธรา-ราม จังหวัดสุพรรณบุรี กระทั่งปี 2545 จึงตัดสินใจมาสร้างวัดใหม่ ณ ด่านทับตะโก...ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสฯ

O O O

แม้จะเป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างวัด กับ “เหนือฟ้า ใต้บาดาล” เจ้าอาวาสฯ พระครูปลัดบุญธรรม ขอมิให้ข้อมูลต่างๆ ด้วยที่เป็นครูสอนปริยัติ-ธรรม มีการแสดงพระธรรมเทศนาทั่วๆไปและมีภาคการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน เกรงว่าจะเกิดโลกวัชชะ เพราะข้อมูลบางตอนมันเป็น Supernatural


จึงได้ให้คุยกับ พระครูวินัยธรวรัญญู อนุภัทโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้องในวัดหลักหกรัตนาราม และเป็นสหายธรรมที่ตามติดไปวัดไทรงามฯพร้อมกันและมาบุกเบิกศาสนสถานแห่งนี้ด้วย ซึ่งได้อารัมภบทว่า...

“...หลายคนมักจะพูดว่า วัดนี้แปลกกว่าเพื่อน  ที่สร้างพระพรหม(องค์ท้าวสหัมบดีฯ) ไว้บน เขา  ทำไมไม่สร้างพระพุทธรูปองค์โตๆเหมือนวัดอื่นๆ ก็อยากจะบอกว่าข้องเกี่ยวกับสงฆ์เช่นกัน...ด้วยพระวัดเราเป็นนักเทศน์ ก่อนจะเทศนานั้นก็ท่องคาถาว่า “พรหมาจะโลกาฯ” นำหน้าเสมอ ก็คือพระพรหมนั่นเอง...”

อันดับต่อมา...จึงได้สร้าง เหรียญปฐมอรหันต์ธรรมจักร อันเป็นธรรมของพระตถาคต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาส 84 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว...ฯลฯ

O O O


ลุงสมควร ลายคล้ายดอก คนเก่าย่านนี้เคยเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ว่า...เขาพรหมแห่งนี้ฟ้าจะผ่าปีหนึ่งหลายครั้ง หลังอัญเชิญพระพุทธชินราชไว้บนยอดเขาก็ไม่มีฟ้าผ่าอีกเลย และพื้นที่แห่งนี้ก็เคยมีพระจะมาสร้างวัดเช่นกัน แต่ก็ล้มเหลว

แรงบันดาลใจที่ให้มาสร้างศาสนสถานแห่งนี้ เริ่มจากแรกเริ่มอยู่วัดหลักหกฯ อันเป็นวัดพัฒนา พวกเราจะเก่งในการเทศนา แต่มิได้รู้หรือสัมผัสทางปฏิบัติฯ หลังจากเทศนาแล้วเมื่อโยมถึงการปฏิบัติจึงมิสามารถตอบได้ หลวงพี่ (พระครูปลัดบุญธรรม) จึงชักชวนไปอยู่วัดที่มีการปฏิบัติ เพื่อให้ครบถ้วนถึงการเป็นสงฆ์ จึงไปอยู่ที่วัดไทรงามฯ ฝึกด้านปฏิบัติจนเข้มขลัง

และ...เมื่อพวกเรามีความรู้ที่สามารถหยั่งถึงแล้ว อยากเผยแผ่ศาสตร์แห่งธรรมแก่ศาสนิกชน จึงเดินทางกลับมาจังหวัดบ้านเกิด หาที่สร้างสำนักปฏิบัติฯ ฝึกอบรม ถ่ายทอดแก่ชาวบ้าน

O O O


ช่วงแรกที่พบผืนที่แห่งนี้ เป็นป่าเต็มไปด้วยต้นกระถินยักษ์ จึงกลับ แต่ก็มิได้เลิกล้มความตั้งใจ แล้ว เทพฯที่ปกปักรักษาดินผืนนี้ ก็ผ่านเข้าร่างทรงโยมคนหนึ่งที่จังหวัดอ่างทอง บอกให้มาสร้างวัดเถอะต่อไปจะเจริญรุ่งเรือง หากไม่เชื่อให้กลับมาดูอีกทีจะเห็นเขาลูกนี้มีลักษณะเป็นคนนอนคว่ำ ภายในป่ารกนั้นจะมีต้นไม้กินได้...ไม้กินได้คือสะเดา

ด้วยความเชื่อจากเทพฯที่บอก...จึงได้ปักหลักลงมือ ระยะแรกก็มีอุปสรรคไม่น้อย แต่ดูเหมือน เทพฯเข้าข้าง ปัญหาต่างๆล่วงลุไปด้วยดี ได้รับความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนในการพัฒนา ศรัทธาเริ่มพอกพูน ความเลื่อมใสนอกจากชาวบ้านทั่วๆไปแล้ว ก็มีเหล่านิสิตนักศึกษา จากภายในจังหวัดและใกล้เคียงเดินทางมาปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ อย่างต่อเนื่อง

O O O

เมื่อ...ศิษยานุศิษย์เพิ่มขึ้น จึงพร้อมกันร้องขอให้ทางวัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อน้าวโน้มจิตใจจ่ายแจกเป็นอนุสรณ์แก่ศิษย์จากรุ่นสู่รุ่น ผู้ศรัทธาเลื่อมใสและผู้ร่วมกิจวัดขัดมิได้จึงสนอง อย่าง เมื่อสร้างองค์พระพรหมองค์ใหญ่ก็ได้สร้างองค์เล็กด้วย หรือตอนสร้าง ปฐมอรหันต์ธรรมจักรก็สร้างเหรียญเล็กควบคู่


ต่อมาก็สร้าง พระสมเด็จที่แฝงด้วยปริศนาธรรม อาทิ สมเด็จทรงพล บัวสี่เหล่า สังกัจจายน์ แต่จำนวนไม่มากเพราะมิใช่เป็นพาณิชย์ โดยจะ เน้นในด้านพุทธศิลป์ เอกลักษณ์แห่งความงามจึงเป็นที่ถูกใจ โดยเฉพาะชาวต่างชาติกลุ่มชนจากแผ่นดินใหญ่

ซึ่งหากย้อนว่า “สวยแล้วขลังหรือไม่”...สมเด็จพระงักปา พระสังฆราชาฯภูฏาน ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญ “พุทธคุณแห่งขุนเขา” มาร่วมกิจพิธีอธิษฐานจิตแผ่พลังเททอง...เป็น คำตอบ ให้นำไปวิเคราะห์...!!

READMORE